การบริหารจัดการความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
ผู้มีส่วนได้เสียหลัก : ผู้ถือหุ้น / คู่ค้า / พนักงาน / ชุมชน / ชาวไร่
การปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยเป็นรากฐานที่สำคัญขององค์กรช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน ลดอุบัติภัยร้ายแรง ลดข้อร้องเรียน ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ที่อาจส่งผลกระทบต่อพนักงาน ชาวไร่ ผู้รับเหมา และผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า พนักงาน และผู้รับเหมา ล้วนมีส่วนสร้างพื้นที่ปฏิบัติงานที่ปลอดภัย การมีพื้นที่ปลอดภัยจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานเกิด Safety and Healthy workplace ส่งผลเรื่องขวัญกำลังใจในการทำงาน และส่งผลไปยังประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตที่ดีขึ้น
อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นในพื้นที่ หรือนอกขอบเขตการดำเนินงานของบริษัทได้ เช่น สารเคมีหกรั่วไหล การแพร่กระจายของสารมลพิษ การหกหล่นจากการขนส่งวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์และผลพลอยได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของคนในชุมชน รวมไปถึงส่งผลต่อชื่อเสียงขององค์กร
กลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญในการบริหารจัดการความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยมีเป้าหมายให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์ นับเป็นความท้าทายที่กลุ่มมิตรผลต้องเผชิญและกำหนดเป็นกลยุทธ์หนึ่ง หากจะบรรลุเป้าหมายจะต้องได้รับความร่วมมือจากพนักงาน ชาวไร่ ผู้รับเหมา และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สิน นอกจากนั้นแล้วยังมีการตั้งเป้าหมายอัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate: LTIFR) สำหรับพนักงานและผู้รับเหมาให้น้อยกว่า 0.6 รายต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน ภายในปี 2566
แนวทางการบริหารจัดการ
บริษัทมุ่งมั่นในการบริหารจัดการความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยองค์กรได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีจากภายนอก ISO45001:2018 อีกทั้งได้กำหนดนโยบายด้านความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (Security, Safety, Occupational Health, and Environment: SSHE) โดยนำมาบูรณาการบริหารจัดการทั่วทั้งภายใน และภายนอกองค์กร นอกจากนั้นในปี 2565 ยังได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมภายในแต่ละโรงงาน เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ เพื่อกำหนดเป้าหมายแผนการดำเนินงานร่วมกันของแต่ละพื้นที่การดำเนินงานในกลุ่มมิตรผล ซึ่งทีมงานได้มีการสื่อสาร ถ่ายทอดไปยังผู้มีส่วนได้เสียครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับเหมา และผู้มีส่วนได้เสียทุกคน
กลุ่มมิตรผลได้มีการจัดตั้งฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม โดยมีทีมงานทั้งส่วนกลางและส่วนโรงงานในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้การบริหารงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมเป็นไปได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ โดยจะมีกระบวนการในการบ่งชี้ความเป็นอันตราย การประเมินความเสี่ยงและการสอบสวนอุบัติการณ์เพื่อระบุประเด็นประเมินความเสี่ยง (Risk) และโอกาส(Opportunity) ครอบคลุมกระบวนการปฏิบัติงาน กิจกรรม และพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ผลิตภัณฑ์ และบริการของหน่วยงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ตลอดจนกิจกรรมในการดำเนินการของผู้รับเหมาที่มีนัยสำคัญต่อหน่วยงาน พิจารณาครอบคลุมถึงสถานการณ์ปกติ สถานการณ์ไม่ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงกำหนดแผนควบคุมและลดความเสี่ยงนั้นให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในทุกระดับ ความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยกำหนดผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานและติดตามแผนงานดังกล่าวเป็นระยะ ซึ่งจะนำผลจากกระบวนการเหล่านี้ไปพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมของกลุ่มมิตรผลต่อไป
ทั้งนี้เพื่อให้มีการบ่งชี้ความเป็นอันตรายและประเมินความเสี่ยงที่เป็นปัจจุบัน จึงต้องทบทวนและปรับปรุงอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ กระบวนการผลิต กิจกรรม เครื่องจักรอุปกรณ์ บุคลากร ที่มีนัยสำคัญ โดยอ้างอิงตามมาตรฐานการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยง (MP-QP-8002-017) หากพนักงานหรือผู้บังคับบัญชาพบว่า กิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมายได้ปฏิบัตินั้นมีความเสี่ยงหรืออาจก่อให้เกิดการประสบอันตราย การบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตมีสิทธิปฏิเสธการปฏิบัติงานและ/ หรือสั่งหยุดการกระทำนั้นได้ทันที และต้องแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบทันทีเพื่อดำเนินการแก้ไข โดยอ้างอิงตามมาตรฐานบทบาทหน้าที่และกฎระเบียบด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (MP-QP-8002-025) และกรณีที่มีการเกิดอุบัติการณ์ สภาพที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดจะมีกระบวนการรายงาน ค้นหาสาเหตุ วิเคราะห์ แนวทางแก้ไขป้องกัน ติดตามผลการแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดขึ้นซ้ำ โดยอ้างอิงตามมาตรฐานการจัดการอุบัติการณ์ (MP-QP-8002-019)
คลิกเพื่อดูรายละเอียดนโยบายความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
กลุ่มมิตรผลมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย และอาชีวอนามัย และช่วยเพิ่มโอกาสในการใกล้ชิดกับพนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงสร้างโอกาสในการดูแลสุขภาพให้กับพนักงาน เราได้มีการดำเนินโครงการด้านความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ดังต่อไปนี้
1. ผลอัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate – LTIFR)
2. การบาดเจ็บเนื่องจากการทำงานทั้งหมด (Total recordable work-related injuries -TRIR)
3. สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย และอาชีวอนามัย
กลุ่มมิตรผลสนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมด้าน SSHE ในองค์กร เพื่อมุ่งให้พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เกิดความตระหนัก และลดพฤติกรรมไม่ปลอดภัยผ่านการดำเนินงานภายในแนวคิด 4Care ดังนี้
3.1 ห่วงใยตนเอง : เน้นบทบาทหน้าที่ของพนักงาน
3.2 ห่วงใยเพื่อนร่วมงาน : เน้นบทบาทหน้าที่ของพนักงาน
3.3 ห่วงใยสิ่งแวดล้อม : เน้นบทบาทหน้าที่ของพนักงาน
3.4 ห่วงใยชุมชน : บทบาทหน้าที่ของพนักงาน
นอกจากนี้ ยังจัดฝึกอบรมให้ความรู้ความปลอดภัยกับพนักงานและผู้รับเหมาอย่างสม่ำเสมอ ตลอดทั้งนำสถานีการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมมาพัฒนาทักษะในการทำงานให้พนักงาน รู้จุดอันตราย และประเมินสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัยได้
4. จัดกิจกรรม SSHE Top Talk
ในปี 2565 นี้ได้มีการจัดกิจกรรมให้ผู้บริหารแต่ละธุรกิจมาสื่อสารเป้าหมาย : Zero accident, Zero Environment Compliant และ Zero fire incident ให้กับพนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสร้างความตระหนักด้านความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
5. กิจกรรมการดูแลสุขภาพ
กลุ่มมิตรผลสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
5.1 การขับเคลื่อนสุขภาวะคนทำงานในสถานประกอบการอย่างมีส่วนร่วม (Healthy Living)
5.2 กิจกรรม Healthy Life Happy Life Campaign
กิจกรรม Healthy Life Happy Life Capaign ให้กับพนักงาน ผ่าน Campaign เสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับเพื่อนพนักงานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย สุขภาพใจ และการพัฒนาความรู้ โดยมีกิจกรรมให้พนักงานเข้าร่วมถึง 4 Challenges
กิจกรรม Healthy Life Happy Life Campaign
5.3 สถานประกอบการ ปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข
กลุ่มมิตรผล ได้มีการนำแนวทางของสถานประกอบการ ปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุขมาประยุกต์ใช้ ดังนี้