การบริหารจัดการน้ำ
ผู้มีส่วนได้เสียหลัก : ชาวไร่ / ภาครัฐและองค์กรภาคประชาสังคม / ชุมชน
ทรัพยากรน้ำและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเชื่อมโยงกันอย่างไม่สามารถแยกจากกันได้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำของโลกในรูปแบบที่ซับซ้อน ตั้งแต่รูปแบบปริมาณน้ำฝนที่คาดเดาไม่ได้ ไปจนถึงแผ่นน้ำแข็งที่หดตัว ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น น้ำท่วม และภัยแล้ง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเติบโตของประชากร และการขาดแคลนน้ำที่เพิ่มขึ้นจะสร้างแรงกดดันต่อความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) เนื่องจากน้ำจืดส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 70 จะถูกใช้เพื่อการเกษตร การที่ฝนตกในปริมาณน้อยหรือมากเกินไปในเวลาที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดการย่อยสลาย และการชะล้างของดิน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคเกษตร
กลุ่มมิตรผลในบทบาทผู้นำในอุตสาหกรรมเกษตรจึงให้ความสำคัญกับเรื่องบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ในพื้นที่เพาะปลูกแหล่งวัตถุดิบต้นทางจนถึงกระบวนการผลิตและตลอดห่วงโซ่อุปทานของกลุ่มมิตรผล โดยการบริหารจัดการน้ำที่ดีจะช่วยลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ และสามารถรักษาระบบนิเวศที่ดีให้คงอยู่ได้ต่อไป
แนวทางการบริหารจัดการ
กลุ่มมิตรผลมุ่งมั่นในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการใช้งานและมีคุณภาพที่เหมาะสมต่อการผลิต อีกทั้งยังคำนึงถึงการใช้น้ำร่วมกันของชุมชนในพื้นที่ โดยมีแนวทางการบริหารจัดการที่สำคัญ ดังนี้
1. จัดตั้งคณะทำงานการจัดการน้ำ เพื่อประสานกับหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานปกครอง และตัวแทนกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ ร่วมกันระดมความคิด วางแผนจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และครอบคลุมทั่วทั้งภายในและนอกองค์กร
2. พัฒนาแหล่งน้ำทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เพื่อให้ชาวไร่อ้อยมีน้ำใช้สำหรับทำการเกษตร เช่น การขุดบ่อขุดสระ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ (Oasis Project) และระบบส่งน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
3. บริหารจัดการน้ำทิ้ง ด้วยการนำเทคโนโลยีระบบบำบัดน้ำทิ้งมาใช้ เพื่อสามารถนำน้ำเสียที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตใหม่ได้ ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำ นอกจากนั้นยังมีการควบคุมค่าความสกปรกของน้ำเสียก่อนเข้าระบบบำบัด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดให้ดีขึ้น และทำให้มีน้ำที่มีคุณภาพ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายและข้อบังคับต่างๆ กำหนดกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
เพื่อให้เกิดการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจทั้ง การจัดการวัตถุดิบ การผลิตน้ำตาล เอทานอล ไฟฟ้าชีวมวล รวมถึงธุรกิจต่อเนื่อง กลุ่มมิตรผลได้ดำเนินการเพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนทั้งในพื้นที่ปฏิบัติงาน และตลอดห่วงโซ่คุณค่า ดังนี้
การบริหารน้ำในพื้นที่โรงงาน (Mitr Phol’s Factories)
บริษัทให้ความสำคัญต่อการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าโดยยึดหลัก 4Rs : Resource, Reduce, Reuse, Recycle ได้แก่ การจัดหาแหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดินเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรอง บริหารจัดการการใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการผลิต โดยลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต หมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ซ้ำ และการนำน้ำทิ้งจากระบบบำบัดน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อการใช้น้ำจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงสร้างความร่วมมือตลอดโซ่อุปทาน
คลิกเพื่อดูรายละเอียดหลัก 4Rs : Resource Reduce Reuse Recycle
1. ปริมาณการใช้น้ำจากแหล่งน้ำของกลุ่มมิตรผล
ปี 2562 | ปี 2563 | ปี 2564 | ปี 2565 | เป้าหมายปี 2565 | |
ปริมาณการใช้น้ำจากแหล่งน้ำ (ล้านลิตร/ ล้านบาท) | 0.3592 | 0.3629 | 0.4213 | 0.2843 | 5% จากปี 2564 |
หมายเหตุ: ปริมาณการใช้น้ำจากแหล่งน้ำ ปี 2563 - 2565 รวมแหล่งน้ำผิวดิน น้ำบาดาล น้ำประปา และ produced water สำหรับข้อมูลปี 2562 รวมปริมาณน้ำผิวดิน น้ำบาดาล และน้ำประปา
2. การบริหารจัดการน้ำดิบ-น้ำใช้
บริษัทให้ความสำคัญต่อการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าโดยยึดหลัก 4Rs : Resource Reduce Reuse Recycle และวางแผนบริหารจัดการปริมาณน้ำดิบเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการผลิต โดยตลอดปี 2565 ได้มีการสำรวจเส้นทางระบายน้ำฝนภายพื้นที่โรงงาน จัดทำแผนที่เส้นทางการไหลของน้ำ ขุดลอกเส้นทางน้ำ เพื่อรวบรวมและกักเก็บน้ำฝน น้ำหลาก เข้าสู่บ่อน้ำดิบ
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการตั้งเป้าการใช้น้ำดิบของแต่ละแผนก มีการควบคุมและติดตามปริมาณและคุณภาพน้ำทิ้งของแต่ละแผนก โดยการควบคุมค่า Sugar content เพื่อควบคุมการสูญเสียที่ไม่สามารถระบุได้ (Undetermined Loss) และมีการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการ กำหนดจุดติดตามตรวจวัด ประชุมรายงานผลการตรวจวัด รวมถึงติดตามปัญหา-การแก้ไข
|
3. การบริหารจัดการน้ำเสีย
บริษัทฯ ได้มีการวางแผนพัฒนาการบริหารจัดการน้ำเสีย โดยเริ่มจากการจัดตั้งบริษัท พัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงานไทย จำกัด ที่มีความชำนาญด้านบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ตั้งแต่การออกแบบ การควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย และปรับปรุงคุณน้ำทิ้งเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และในปี 2565 ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบบำบัดน้ำเสียแบบบ่อผึ่งเป็นระบบบำบัดแบบตะกอนเร่ง (Activated Sludge : AS) ณ อุทยานมิตรผลด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจทั้งอุทยานฯ อันประกอบด้วยโรงงานน้ำตาล โรงไฟฟ้า และโรงงานเอทานอล ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างระบบบำบัดแบบตะกอนเร่งจะขยายผลการดำเนินงานในพื้นที่ปฎิบัติงานอื่นๆของกลุ่มมิตรผล ทั้งอุทยานมิตรผลภูเขียว และอุทยานมิตรผลกาฬสินธุ์ในลำดับถัดไป
นอกจากนี้น้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบบำบัดน้ำเสียแบบตะกอนเร่งจะนำส่งไปยังโครงการ Oasis ในพื้นที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตรอีกด้วย
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบตะกอนเร่ง ในพื้นที่อุทยานด่านช้าง |
การบริหารจัดการน้ำในไร่
สำหรับชาวไร่ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของเรา เราได้ดำเนินโครงการชลประทานสำหรับเกษตรกร เช่น ส่งเสริมการเจาะบ่อบาดาล สร้างบ่อ ส่งเสริมการติดตั้งเครื่องสูบน้ำโซล่าเซลล์ ส่งเสริมการติดตั้งระบบน้ำอัตโนมัติ และยังจัดให้มีหน่วยงานชลประทาน เพื่อดำเนินการสำรวจพื้นที่ของชาวไร่อ้อยคู่สัญญาอย่างละเอียดเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยมีภารกิจหลักในการส่งเสริมพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำใต้ดิน ประสานงานขอสนับสนุนโครงการจากหน่วยงานภาครัฐ จัดหาพื้นที่ที่เคยปลูกอ้อยและมีแหล่งน้ำ และส่งเสริมให้มีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพแก่ชาวไร่อ้อยคู่สัญญา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวไร่อ้อยถึงความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืนไปด้วยกัน
ในปี 2565/66 มีพื้นที่ชลประทาน สะสม 997,900 ไร่ โดยมีประเภทของชลประทาน ดังนี้
1. สร้างแหล่งน้ำ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เป็นโครงการต้นแบบที่จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากให้สามารถกักเก็บน้ำ และสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพาะปลูก อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ในการทำไร่อ้อย แหล่งขยายพันธุ์อ้อยให้เกษตรกรทั้งในและนอกพื้นที่ ได้ศึกษา เรียนรู้ และนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง
โครงการ Oasis บ้านหนองไผ่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พื้นที่รับประโยชน์ 10,000 ไร่ |
โครงการ Oasis บ้านถนนกลาง อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ พื้นที่รับประโยชน์ 10,000 ไร่ |
2. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ |
|
|
|
|
ส่งเสริมการเจาะบ่อบาดาลน้ำลึก |
ส่งเสริมปลูกอ้อยใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เช่น ลำน้ำยัง จ.กาฬสินธุ์ |
โครงการชลประทานขนาดใหญ่: ประตูระบายน้ำน้ำเชิญ บ้านกุดแคน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น |
สระพักน้ำ |
ระบบน้ำหยดและระบบให้ปุ๋ยทางน้ำ |
ชุดโซล่าเซลล์ ขนาด 3 แผง 1,800 วัตต์ |
การบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับหน่วยงานภายนอก
1. โครงการส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนมีนโยบายและหลักเกณฑ์ การส่งเสริมการลงทุนเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคมโดยร่วมมือ กับองค์กรท้องถิ่นเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ ได้แก่ โครงการฝายชะลอน้ำ บาดาลน้ำลึก สถานีสูบน้ำโซล่าเซลล์ และโซล่าเซลล์แบบเคลื่อนย้าย โดยมิตรผลได้ดำเนินการขอรับการส่งเสริมดังนี้
โซล่าเซลล์แบบเคลื่อนย้าย |
สถานีสูบน้ำโซล่าเซลล์ |
2. โครงการชลประทานร่วมกับภาครัฐ
เป็นการขอสนับสนุนโครงการชลประทานจากภาครัฐ (ด้านน้ำ) ปีละไม่น้อยกว่า 20,000 ไร่ ได้แก่ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกระทรวงพลังงาน โดยทางโรงงานเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการรวบรวมความต้องการจากเกษตรกรในพื้นที่ จัดประชุม ตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ และเขียนขอโครงการ ผ่านองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำเข้าพิจารณาของคณะอนุกรรมการน้ำจังหวัด และนำเข้าแผนพัฒนาพื้นที่ชลประทานขอประเทศต่อไป ซึ่งมีโครงการขอสนับสนุนดังต่อไปนี้